“อิทธิพร” ประธานกกต. ยัน ประกาศรับรอง “พิธา” ก่อน แล้วสอบสวนทีหลัง คำร้องปมถือหุ้น itv ควบคู่ไปได้ ไม่หวั่นด้อมส้ม 14 ล้านเสียงกดดันให้รับรอง ย้ำ ทำตามหน้าที่ ไม่ถึงขั้นเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ เพราะมีปัญหาแค่ 47 หน่วย
วันที่ 9 มิ.ย. 2566 ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึง มติ กกต.ที่สั่งให้มีการนับคะแนนใหม่ 47 หน่วยเลือกตั้ง ว่า การสั่งนับคะแนนใหม่เนื่องจาก กกต.เห็นว่า การนับคะแนนกับผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกัน ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความไม่ล่าช้า โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน ก่อนส่งกลับมายัง กกต.ให้พิจารณา ย้ำว่า การนับคะแนนใหม่จะไม่ส่งผลต่อจำนวนเพิ่มหรือลดของ ว่าที่ ส.ส. เพราะนับคะแนนใหม่เป็นบางหน่วย ส่วนหาเหตุที่ต้องนับคะแนนใหม่ นอกจากจำนวนบัตรผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกัน หรือกรณีขีดคะแนนไม่ตรงผิดพลาด หาสาเหตุไม่เจอ ยืนยัน กกต.ทำตามกระบวนการกฎหมาย ไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้ ขณะเดียวกันหากเป็นกรณีบัตรเขย่ง กกต.สามารถใช้ดุลยพินิจได้ แต่กรณีนี้แตกต่างกัน จึงต้องนับคะแนนใหม่ ส่วนการสั่งนับคะแนนใหม่ในหน่วยอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งจะอาจจะทราบแน่ชัดภายในวันนี้ยังไม่สามารถตอบได้ หรืออาจจะไม่มีเลย ให้รอติดตาม ทั้งหมดไม่ถึงกับต้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะเป็นปัญหาเพียงบางหน่วยเท่านั้น อย่างไรก็ตามหน่วยเลือกตั้งทังประเทศมี 95,000 หน่วย แต่มีปัญหาเพียง 47 หน่วย จึงไม่มีผลต่อการประกาศรับรองรองผล
นายอิทธิพร กล่าวถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งว่า ไม่สามารถรับรองเป็นรายคนได้ เพราะกฎหมายระบุให้ประกาศร้อยละ 95 จึงไม่สามารถทยอยประกาศรับรองเหมือนกับการเลือกตั้งท้องถิ่น และกฎหมายให้ กกต.ดำเนินการภายใน 60 วัน หากเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความโปร่ง โดยกระบวนการตรวจสอบของ กกต.คืบหน้าไปมาก ดูจากการสั่งนับคะแนนใหม่ ส่วนในจำนวนว่าที่ ส.ส.มีคนไหนที่เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมาย เพราะเป็นเพียงคำร้องร้องที่จะต้องตรวจสอบพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับพิจารณาคำร้อง หาก กกต.รับเรื่องจะต้องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนสอบสวน ก่อนส่งที่ประชุม กกต.พิจารณา
ส่วนที่มีหลายกลุ่มมายื่นหนังสือขอให้ กกต.เร่งประกาศรับรองผลการเลือกตั้งถือเป็นการกดดันหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวยืนยันว่า กกต.ทำงานตามปกติ หากยื่นคำร้องมาก็ต้องพิจารณา ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบ แต่ไม่ตัวถ่วงให้การประกาศรับรองผลยืดออกไป
นายอิทธิพร กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 3 คำร้อง ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาข้อมูลของสำนักงาน กกต. โดยต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ ก่อนส่งเข้าที่ประชุม กกต.พิจารณารับหรือไม่รับเป็นคำร้อง และสามารถรับรองไปก่อนได้ และไปสอบสวนในภายหลังได้ เพราะสามารถทำควบคู่ไปได้ คำร้องสามารถยื่นได้ 30 วัน หลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จำเป็นแขวน นายพิธา ไว้ก่อนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะยังไม่เข้าสู่จุดที่ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องของ นายพิธา หรือไม่ หากรับแล้วกระบวนการสืบสวนสอบสวนต้องใช้เวลาอยู่บ้าง เพราะเป็นกระบวนการยุติธรรมจะต้องให้ความเป็นธรรม นายพิธา หากกระบวนการยังไม่แล้วเสร็จ หรือคาดว่าไม่แล้วเสร็จ ก็ไม่มีประเด็นอะไรต้องมาขวางการประกาศผล
เมื่อถามว่า หากผลการตรวจสอบแล้วมาพบในภายหลังว่า นายพิธา ขาดคุณสมบัติจะกระทบต่อสถานะของพรรคก้าวไกลทั้งหมด ที่นายพิธาเซ็นรับรองลงสมัครหรือไม่ นายอิทธิพร ย้ำว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะการให้ความเห็นเบื้องต้น ไม่ใช่ผลการพิจารณา ต้องให้ กกต.ทั้งคณะพิจารณาบนพื้นฐานของความเห็นและข้อเสนอของสำนักงาน กกต.จึงจำเป็นต้องใช้เวลา
นายอิทธิพร กล่าวว่า 14 ล้านเสียงที่เลือกพรรคก้าวไกล ไม่มีผลกดดันต่อการทำงานของ กกต.เพราะทำตามกฎหมาย แต่รับทราบสิ่งที่ประชาชนส่วนหนึ่งแสดงความเห็น แต่สิ่งที่ กกต.ต้องทำหน้าที่และปฏิบัติตามกระบวนการกฎหมาย ไม่สามารถละเว้นได้ และยังไม่ยืนยันว่าจะสามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งภายใน 13 ก.ค. 2566 แต่ยังอยู่ในกรอบ 60 วัน
ส่วนที่ นายพิธา ระบุว่า หากได้เป็นรัฐบาล จะปฏิรูปองค์กรอิสระที่ไม่อิสระ นายอิทธิพรเห็นว่า ทุกคนมีสิทธิเสนอความเห็น และผลักดันให้เป็นตามนั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับ กกต. เพราะเป็นผู้ปฏิบัติ. เกมสล็อต